สื่อดังของอังกฤษ ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจไม่ดึงตัว บรูโน่ แฟร์นันเดส
กองกลางของสปอร์ติ้ง ลิสบอน มาร่วมทีมก่อนปิดตลาดซื้อขายพรีเมียร์ลีก เมื่อสัปดาห์ก่อน
มิดฟิลด์ตัวรุกชาวโปรตุกีสระเบิดตาข่ายให้กับต้นสังกัดเมื่อซีซั่นที่แล้วไป 31 ประตูในทุกรายการทำให้เจ้าตัวตกเป็นเป้าหมายของบรรดาทีมใหญ่ในยุโรปโดยมี ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็น 2 ทีมเต็งที่จะคว้าตัวไปร่วมทีม
รายงานระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตกลงค่าตัวของ แฟร์นันเดส กับทาง สปอร์ติ้ง เป็นที่เรียบร้อย โดยคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านยูโร หรือ 62 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม นักเตะก็ไม่ได้ย้ายมายังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะพรีเมียร์ลีก
เดลี่เมล ระบุว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้กองกลางวัย 24 ปีไม่ได้ย้ายมาเล่นให้กับทีมปีศาจแดง เนื่องจากทีมแมวมองได้เก็บสถิติการผ่านบอลสำเร็จของนักเตะและนำมาเปรียบเทียบกับมิดฟิลด์รายอื่นๆแล้วพบว่ามีค่าเฉลี่ยที่ต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด
โดยค่าเฉลี่ยในการผ่านบอลของแฟร์นันเดส ในซีซั่น 2018-19 อยู่ที่ 75.1% ในขณะที่นักเตะในแผงมิดฟิลด์ของยูไนเต็ด แต่ละคนนั้นมีค่าเฉลี่ยสูงถึง 80% ประกอบด้วย เฟร็ด 86.3%, ฆวน มาต้า 86%, เจสซี่ ลินการ์ด 85.7%, ปอล ป็อกบา 82.8% และ อันเดรียส เปร์เรร่า 82.4%
รายงานดังกล่าวยังระบุว่า ด้วยค่าเฉลี่ยอันน้อยนิด ทำให้เจ้าตัวมีความเสี่ยงที่จะเสียการครองบอลสูงกว่าเพื่อน และน่าจะสวนทางกับแนวทางการทำทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เน้นความรัดกุมมากกว่า ด้วยเหตุนี้ทำให้แฟร์นันเดสอาจจะยังคงต้องค้าแข้งกับสปอร์ติ้งต่อไป จนกว่าจะถึงช่วงเปิดตลาดซื้อขายหน้าหนาวอีกครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า